อุทยานเย่หลิว (Yehliu Geopark – 野柳地質公園) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไต้หวันที่นักท่องเที่ยวต้องมาชมด้วยสายตาของตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของไต้หวัน ลักษณะของบริเวณอุทยานเย่หลิวมีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะ และเพราะว่าเป็นพื้นที่ส่วนที่ยืนออกไปในทะเลน้ำลึกทำให้อากกาศบริเวณนั้นเย็นสบายถึงขั้นสดชื่นมากมายกับอ็อกซิเจนที่เหล่าแพลงตอนกับสาหร่ายในทะเลผลิตขึ้นมา ซึ่งช่วงที่เหมาะกับการเดินทางมาเยี่ยมชมอุทยานเย่หลิวแห่งนี้มากที่สุดคือช่วงเดือนมีนาคมถึงประมาณเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของไต้หวัน สภาพอากาศในช่วงนั้นจะไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป เหมาะกับการย่ำเท้าสัมผัสกับความมหรรศจรรย์ของธรรมชาติของอุทยานแห่งนี้
ภาพอุทยานเย่หลิวจาก Cube Breaker
เห็นกันได้ถึงความน่าสนใจของอุทยานเย่หลิวแห่งนี้กันเลยว่ามีหินลักษณะแปลกจำนวนมาก ซึ่งจุดเริ่มต้นของความมหัศจรรย์เหล่านี้ค่อยๆเกิดขึ้นมาแล้วกว่า 2 ล้านปี ซึ่งเริ่มจากการที่แผ่นเปลือกโลกชนกันทำให้ชั้นหินใต้โลกส่วนที่เป็นอุทยานเย่หลิวในปัจจุบันถูกยกขึ้นมา จากนั้นเกิดการกัดเซาะจากพายุฝุ่นบ้าง การขึ้นลงของน้ำบ้าง และอื่นๆ ทำให้เกิดผลงานศิลปะชิ้นนี้ที่มีศิลปินนามว่าโลกสรรค์สร้างขึ้นมาให้เราได้ชื่นชม
การเดินทางมายังอุทยานเย่หลิวจากไทเป
ต้องขอโทษล่วงหน้าเลยสำหรับท่านที่ไม่ได้เริ่มเดินทางมาจากไทเป เพราะดูจะอธิบายง่ายสุดแล้วให้สามารถเดินทางมาอุทยานเย่หลิวแห่งนี้ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการนั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี “Zhongxiao Xinsheng” จากนั้นก็นั่งรถเมสาย 1815 ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็จะถึงอุทยานเย่หลิวแล้ว ซึ่งจะมีรถทุกๆ 10 นาทีเลย โดยสำหรับการชำระค่าโดยสารแนะนำให้ชำระด้วยบัตร easy card เพราะว่าคนขับรถจะไม่พกเงินทอนสำหรับเราอยู่แล้ว เมื่อเดินทางมาถึงแล้วจะมีสัญญาณหนึ่งให้เราได้รับรู้ก็คือกลิ่นของทะเลนั่นเองงงงง และหลังจากเราเดินลงมาจากรถสาย 1815 แล้วก็จะเห็นร้านอาหารทะเลเยอะมากซึ่งก่อนหน้าที่เราจะเข้าไปชมอุทยานเย่หลิวต้องทำการเข้าไปซื้อตั๋วก่อน โดยการซื้อตั๋วหนึ่งครั้งจะสามารถอยู่ข้างในนั้นนานเท่าไหร่ก็ได้ สำหรับในเรื่องของการเดินทางมายังอุทยานเย่หลิวแห่งนี้ถ้ามากับกรุ๊ปทัวร์ไต้หวันหรือบริษัททัวร์ที่ทำเส้นทางทัวร์ไต้หวันก็น่าอิจฉาอยู่ไม่น้อย เพราะว่าไม่ต้องต่อรถเหมือนเราๆที่เดินทางมาเองเนื่องจากมีบัสนำเที่ยวอยู่แล้ว แต่การเดินทางมาเองต่อรถเองก็ให้สัมผัสแห่งรสในการท่องเที่ยวอีกแบบที่ไม่เหมือนกัน
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในว่านหลี (Wanli District)
โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้เวลาท่องเที่ยวในอยู่ในอุทยานเย่หลิวไม่น่าจะเกินครึ่งวัน ที่เหลือจะกลับไปตั้งหลักกันที่ไทเปมันก็กะไรอยู่ไหนๆได้มาที่ว่านหลีแล้วก็ขอเที่ยวมันให้สุดกันไปเลยกับเมืองว่านหลีของไต้หวัน ซึ่งนอกจากพื้นที่อุทยานเย่หลีก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆให้เราได้แวะเวียนกันไปเยี่ยมชมได้
หมู่บ้านยูโฟ่ เฮ่ย! ยูเอฟโอ (Wanli UFO Village)
ภาพ ufo house จาก atlasobscura.com
สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ทิ้งร้าง ซึ่งเดิมเป็นการสร้างโครงการเพื่อเป็นรีสอร์ทซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวฟินแลนด์ออกแบบไว้ตั้งแต่ปีคริสตศักราช 1968 ตัวอาคารสร้างด้วยโพลีเอสเตอร์ให้มีรูปร่างเหมือนยานอวกาศและประตูของอาคารเหมือนกับยานบินหรือเครื่องบิน
ภาพ ufo house จาก atlasobscura.com
การออกแบบลักษณะนี้อาจจะเป็นการออกแบบที่ล้ำเกินไปสำหรับปี 1968 ซึ่งถ้าเกิดว่าเพิ่งมีการสร้างขึ้นมาในยุคปัจจุบันก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นที่ต้องการในการเข้าใช้งานจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลามก็เป็นได้ แต่การร้างในปัจจุบันก็เป็นความงามอีกแบบที่เหลือไว้สำหรับนักท่องเที่ยวได้มาเชยชมแต่ไม่สามารถเข้าพักได้ ซึ่งก็เหมือนสาวงามที่เราสามารถเชยชมความงามได้แต่เราหลายคนก็ไม่สามรถครอบครองความงามนั้นได้แม้เพียงหนึ่งคืน
เมืองท่าว่านหลีก็ต้องมีอาหารทะเล
มาเมืองท่าทั้งทีจะไม่ลิ้มรสอาหารทะเลมันก็ยังไงอยู่ เพราะจะบอกว่าอาหารทะเลกินที่ไหนก็ได้มันก็ไม่ได้เพราะว่าเอกลักษณ์ของอาหารแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน วีธีในการประกอบอาหารก็ไม่เหมือนกัน เพราะถึงเป็นปลาชนิดเดียวกันอยู่ในต่างที่กันรสชาติก็ไม่เหมือนกันแล้ว (เขียนมาขนาดนี้เค้าคงรู้กันหมดแล้วว่าบ้าอะนิเมะอาหารขนาดไหน) เพราะจะว่าไปหลังจากที่เราลงจากรถบัสสาย 1815 เราเจอร้านอาหารทะเลก่อนอุทยานเย่หลิวเสียอีก เมื่อเห็นร้านอาหารทะเลแล้วครึ่งวันที่เหลือสำหรับการท่องเมืองว่านหลีอาจจะเป็นการเที่ยวกินนี่แหละครับ
“ปูว่านหลี” อาหารทะเลขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกตามหา ภาพโดย Diary of a Growing Boy
Wanli Lion Park
สำหรับใครที่มาเยือนเมืองว่านหลีจนกระทั่งเย็นแล้วละก็ มีอีกสถานที่หนึ่งที่แนะนำให้มาก็คือ “Wanli Lion Park” จริงๆมีที่ที่น่าไปในว่านหลีมากกว่านี้อีกเยอะเลย แต่ผมดันเป็นพวกที่ชอบเสพแสงอาทิตย์แสงจันทร์ก็เลยอยากจะมาที่ Wanli Lion Park แห่งนี้เพื่อดูตะวันลับขอบฟ้าของวัน เป็นเครื่องหมายว่าวันนี้ผมใช้ชีวิตได้คุ้มค่าแล้ว
ภาพตะวันลับขอบฟ้าจาก Wanli Lion Park โดย 林承恩
สิ่งหนึ่งที่น่าสนุกมากสำหรับผมคนเดียวหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจ เมื่อได้มาย่ำเท้าที่อุทยานเย่หลิวแห่งนี้ก็คือการเดินตามหาหินรูปร่สงแปลกๆที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งหลายๆก้อนก็ได้นับการตั้งชื่อให้แล้ว ซึ่งก็เหมือนว่าเป็นกิจกรรมที่ทางอุทยานได้เตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว เมื่อเราหยิบโบร์ชัวร์ขึ้นมา การเดินทางตามหาหินในโบร์ชัวร์นั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ว่านอกจากหินที่มีการตั้งชื่อแล้ว เจ้าหินที่ไม่ได้รับการตั้งชื่อสวยๆถูกใจเราก็มีเยอะมากมาย ถ้าจะให้เปรียบก็อาจจะเหมือนสาวงามที่ถึงแม้ว่าใครต่อใครต่อใครรวมถึงตัวเราจะบอกว่าสวยมากมายแค่ไหน แต่คนที่อยู่ในใจเราอาจะะไม่ได้มีใครบอกว่าสวยเลยก็ได้นอกจากหัวใจของเราที่มองเห็นนางฟ้าตัวน้อยผู้น่ารักคนนั้นสวยงามอยู่เพียงผู้เดียว ก้อนหินเหล่านี้ในอุทยานเย่หลิวก็เช่นกัน