แบตเตอร์รี่สำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์ (Power bank)
ถือเป็นฮีโร่ระหว่างวันหรือเวลาฉุกเฉินสำหรับคนที่ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะในระหว่างวันเรามักจะพบกับปัญหาแบตเตอร์รี่หมดในเวลาที่จำเป็นสุดๆ ถือเป็นปัญาหาระดับชาติก็ว่าได้ค่ะ
พาวเวอร์แบงค์มีหน้าที่ในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่อุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แทบเล็ต ผ่านทางช่อง Output ของตัว Power Bank และทำการเก็บประจุไฟฟ้าผ่านทางช่อง Input ของ Power Bank
เราจึงพกพาวเวอร์แบงค์ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา หรือในเวลามี่ต้องเดินทางไปไหนไกลๆ อย่างเช่นการนั่งรถไปที่ไกลๆ การนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่พกพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบิน เป็นที่รู้กันดีว่าทุกสายการบินจะมีการบังคับให้พกพาวเวอร์แบงค์ติดไว้กับตัวเท่านั้น ห้ามโหมดไว้ในกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง เพราะอาจเกิดความร้อนจนเกินไปและทำให้เกิดไฟ้ไหม้และลุกลามแต่ถ้าอยู่ในห้องโดยสารเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้เจ้าหน้าจะสังเกตได้และสามารถเข้าดับไฟได้ทันก่อนที่ไฟลุกลามไปมาก
ข้อกำหนดในการพกพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่อง
1.ห้ามใส่กระเป๋าโหมดใต้เครื่องบินโดยเด็ดขาด เพราะตามกฎแล้วทางสายการบินห้ามให้โหลดสิ่งที่เป็นแบตเตอรี่ หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดการติดไฟและระเบิดได้ลงใต้เครื่อง ซึ่งแน่นอนว่า Power bank ก็เช่นกัน หากจะพกแบตเตอรี่ไปนั้น
2.ความจุของพาวเวอร์แบงค์ต้องไม่เกินที่กำหนด การขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้กำหนดไว้ว่า Power bank ที่สามารถอนุญาตนำขึ้นเครื่องบินได้นั้นจะมีความจุต้องไม่เกิน 32,000 mAh เพราะถ้าเกินก็จะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ เพื่อป้องกันไว้ในกรณีที่หากเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจะได้ควบคุมได้ง่าย
3.ไม่พกเกินจำนวนที่กำหนด คือสามารถพกได้มากกว่า 1 เครื่อง ในกรณีที่ความจุไฟฟ้า 20,000 – 32,000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน และ Power Bank ความจุไฟฟ้าน้อยกว่า 20,000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่ระบุจำนวนค่ะ
หลักแล้วก็จะมีอยู่ 3 เรื่องนี้ ที่ต้องปฏิบัติตามที่ทางสายการบินได้กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่าน การเลือกพาวเวอร์แบงค์ที่ดี ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญ ไม่ควรมองแค่ความจุ ราคา แต่ควรใส่ใจเรื่องของคุณภาพด้วยน่ะค่ะ ถ้าเราปฏิบัติตามก็สามารถพกพาวเวอร์แบงค์ได้อย่างสบายใจและไม่ถูกยึดอย่างแน่นอนค่ะ