เฉิงตู เมืองบ้านเกิดของหมีแพนด้า มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาหลายยุคสมัย นานหลายพันปี ทําให้เฉิงตูขึ้นชื่อในด้านแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เก่าแก่และมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ อาทิ ศาลเจ้าอู่โหว และด้วยมีประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้เมืองเฉิงตูกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว เกิดทัวร์เฉิงตูขึ้นมากมาย
“เฉิงตู” ตั้งอยู่ภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในภาคตะวันตกของจีนอีกด้วย ปัจจุบันกลายเป็นสูนย์กลางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการขนส่งในภาคตะวันตกของจีน หลายปีที่ผ่านมา นอกจากเศรษฐกิจได้พัฒนาอย่างรวดเร็วแล้ว ยังได้จัดเป็นอันดับ 1 เมืองที่มีความสุขมากที่สุดของจีน สภาพแวดล้อมของเมืองอย่างสะดวกสบาย เป็นเหตุสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
เฉิงตูถือเป็นเมืองที่มาถึงแล้วก็ไม่อย่ากลับ ได้รับความชื่นชมจากนักปราชญ์ตั้งแต่สมัยโบราณ เฉิงตูมีทรัพยากรการท่องเที่ยวอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง เนื่องจากเฉิงตูเป็น 1 ในเมืองวัฒนธรรมโบราณชื่อดังของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก เฉิงตูเป็นเมืองที่ทั้งเงียบสงบทั้งเจริญรุ่งเรือง เป็นเมืองที่มีทัศนีภาพสวยและวัฒนธรรมอันรุ่งเรือง เวลามากเที่ยวที่เฉิงตู นักท่องเที่ยวจะได้รับรู้ทัศนียาภาพอันสวยงามทางธรรมชาติและอารยธรรมอย่างเก่าแก่ นอกจากนั้น ฉิงตูยังถือว่่าเป็นนครแห่งอาหารเลิศรส อาหารเลิศรสเป็นส่วนประกอบสำคัญของวัฒนธรรมเฉิงตู ชาวเฉิงตูชอบกิน รู้จากกิน อาหารรสเลิศกระจายตัวอยู่ทั้งบนถนนใหญ่และตรอกซอกซอยเล็กในเมือง
ศาลเจ้าสามก๊กที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักการเมืองจูเก๋อเลี่ยงในสมัยสามก๊ก สถาปัตยกรรมของศาลเป็นสไตล์ภาคเหนือของจีน ภายในศาลเจ้าสามก๊กมีรูปปั้นของบุคคลที่สำคัญในสถาปนาก๊กสู่ ส่วนเล่าปี่ จูเก๋อเลี่ยง กวนอูและเตียวหุยทั้งก็มีห้องโถงพิเศษ ผู้ที่รักสามก๊กไม่ควรผิดพลาด ถนนโบราณจิ่นหลี่อยู่ใกล้กับศาลเจ้าสามก๊กมาก เลวาชมศาลเจ้าสามก๊กเจร็ดแลว้ สามรถเดิมไปเที่ยวถนนโบราณจิ่นหลี่ ถนนโบราณจิ่นหลี่เป็นถนนคนเดินที่ดังมากและเป็นถนนการค้าที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเฉิงตู สองข้างถนนมีร้านอาหาร บาร์และร้านสิค้ามากมัย นักท่องเที่ยวจะได้ซื้อของฝากและชิมอาหารท้องถิ่นของเฉิงตูจากที่นี่
ภาพศาลเจ้าสามก๊กจาก:https://commons.wikimedia.org
ตั้งอยู่ภาคชานเมืองเฉิงตู ภายในศูนย์อนุรักษ์มีหมีแพนด้าที่หน่ารักๆจำนวนไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามรถเข้าชมหมีแพนด้าอย่างใกล้ชิด ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์หมีแพนด้า โรงพยาบาลหมีแพนด้าและห้องครัวหมีแพนด้า สถานที่เหล่านี้สามารถช่วยให้เรารู้จากหมีแพนด้าและชีวิดความเป็นอยู่ของแพนด้าอย่างลึกซึงอยิ่งขึ้น
ภาพศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าจาก:http://you.ctrip.com
มาเที่ยวเฉิงตูต้องไปซอยกว้างแคบสัมผัสชีวิตแช่มช้าของเฉิงตู เป็นถนนโบราณสายเดียวของราชวงศ์ชิงที่รักษาไว้จนถึงปัจจุบัน จึงมีสถาปัตยกรรมแบบโบราณมากมัย ที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมอาหารเลิศรสของเมืองอีกด้วย ในนั้นหม้อไฟหมาล่าชื่อดังที่สุด ไม่ควรผิดพลาดนะ
ภาพซอยกว้างแคบจาก:http://www.ddmeishi.com
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าแผ่นดินจีนมีขนาดใหญ่มาก ยังมีหลายที่ที่สวยงามและไม่อยู่ในเส้นทางของบริษัททัวร์ทั่วไป คือเราไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่อันน่าอัศจรรย์เหล่านั้นได้เลยจากการใช้บริการบริษัททัวร์ในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศจีน มีเพียงบริษัทนำเที่ยวไม่กี่แห่งเท่านั้นที่รู้จักเส้นทางการท่องเที่ยวนั้นและสามารถวางแผนการท่องเที่ยวให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจริงๆเท่านั้น โดยไม่สามารถสร้างโปรแกรมขายทั่วไปตามท้องตลาดได้ เนื่อจากราคาทัวร์จะสูงเกินไปกับการไปสถานที่ๆไม่มีใครรู้จักกันและทำให้หลายคนไม่สนใจถึงแม้ว่าเส้นทางการท่องเที่ยวนี้จะมีประบการณ์ที่ไม่เหมือนการเดินทางที่ผ่านมารอให้เราสัมผัสก็ตาม
วีซ่าท่องเที่ยวสำหรับที่สถานฑูตจีนจะเรียกเป็นประเภท “L” สามารถยื่นขอได้ด้วยตนเองสำหรับท่านที่มีเวลามากพอ โดยเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าประกอบด้วย (1) หนังสือเดินทางที่เหลืออายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (2) แบบฟอร์มการขอวีซ่าจีน (3) รูปถ่าย โดยสามารถดูรายละเอียดของรูปถ่ายได้ที่ (ระเบียบใหม่เรื่องรูปถ่ายการขอวีซ่าจีน 2560) เนื่องจากเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบรูปถ่ายเมื่อไม่นานมานี้ (4) ใบจองตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (5) ใบจองโรงแรมหรือกรณีไปพักกับเพื่อนหรือญาติ จะต้องมีจดหมายเชิญจากผู้ที่อาศัยอยู่ในจีน
สำหรับหลายท่านที่ไม่มีเวลาในการดำเนินการยื่นวีซ่าจีนด้วยตนเอง และให้ตัวกลางอื่นๆเป็นผู้ดำเนินการแทนจะต้องมีใบมอบอำนาจเป็นภาษาอังกฤษพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่มายื่น และสำหรับผู้เดินทางที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีเอกสารเพิ่มเติมคือ (6) สำเนาสูติบัตร (7) สำเนาบัตรประชาชนพ่อและแม่ โดยในแบบฟอร์มหัวข้อที่ 2 ต้องให้พ่อแม่เซ็นชื่อกำกับ
การของวีซ่าจีนสำหรับการท่องเที่ยวจะมีอายุการใช้ 60 วันนับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศจีน และสำหรับการเรียนระยะสั้นถ้าหากระยะเวลาไม่เกิน 60 วันก็สามารถใช้วีซ่าประเภทท่องเที่ยวได้เช่นกัน
ประเทศจีนใช้แรงดันไฟฟ้าประมาณ 220 โวลต์ที่ความถี่ 50-60 เฮิร์ต เหมือนบ้านเราเลยทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าจะทำงานได้ไหม (เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในบ้านเราก็มาจากจีนกันทั้งนั้น) ยิ่งกว่านั้นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันออกแบบมาให้รองรับทั้งแรงดันไฟฟ้า 100 โวลต์ถึง 250 โวลต์กันอยู่แล้ว ที่ต้องเป็นห่วงคือเรื่องของปลั๊กไฟ เพราะที่จีนจะมีการใช้เต้ารับหลักๆอยู่ 2 แบบ คือแบบ A (Type A) และแบบ I (Type I) โดยถ้าเป็นแบบ A ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับอุปกรณ์พวกที่ชาร์จแบตไอโฟนหรืออีกหลายญี่ห้อ แต่ก็เห็นอยู่หลายญี่ห้อที่เป็นแบบกลมหรืออะแดปเตอร์โน๊ตบุ๊คก็ต้องหายากหน่อย ทางที่ดีสำหรับนักเดินทางแล้วก็พก Uniersal Adapter ไว้อุ่นใจกว่าครับ
ภาพปลั๊กแบบต่างๆจาก https://gearpatrol.com/2015/02/06/guide-to-plugs-and-sockets-by-country/
ถ้าเราเดินทางไปกับบริษัททัวร์หรือซื้อทัวร์จีน ส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะเป็นคนเตรียม Pocke Wifi ไว้ให้เราใช้เป็นกลุ่มอยู่แล้ว (ถ้าเคยไปกับบริษัทไหนแล้วไม่มีก็…) แต่สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวเองหรือต้องการใช้อินเตอร์เน็ตแยกกับคนอื่นก็มีวิธีง่ายๆ 2 วิธี คือเปิด Data Roaming กับซิมที่เราใช้ในประเทศไทยนี่แหละครับ หรือจะเลือกซื้อซิมการ์ดที่จีนใช้งานเลยก็ได้
เริ่มจากโรมมิ่งอันลิมิตก่อนเลย มีสามค่ายยักษ์ใหญ่ในไทยเราสามารถเปิดโรมมิ่งได้ทั้ง AIS DTAC และ TRUE ซึ่งจะมีราคาประมาณ 300 -2200 บาท ตามระยะเวลาการใช้งาน 1 – 7 วัน แล้วแต่เครือข่าย โดยแต่ละเครือข่ายมีรายละเอียดต่างกันลองศึกษาดูจากเว็บไซต์ของเครือข่ายโดยตรงจเป็นข้อมูลปัจจุบันมากกว่า
สำหรับการซื้อซิมการ์ดจากประเทศจีนใช้งาน ต้องเช็คให้ดีว่าโทรศัพท์มือถือของเรารองรับช่วงความถี่ของผู้ให้บริการหรือไม่ จากผู้ให้บริการสามรายใหญ่คือ China Mobile / China Unicom / China Telecom
โดยถ้าเราดูจากตารางเปรียบเทียบความถี่สัญญาณที่รองรับกับโทรศัพท์มือถือบ้านเรามากที่สุดก็น่าจะเป็น China Unicom และเล่าต่อๆกันมาว่า China Unicom มีสัญญาณครอบคลุมเป็นลำดับสองกันเลย ซึ่งจากผู้ที่เคยใช้งานมาก็ถือว่าสัญญาณ 3G/4G อยู่ในระดับที่ดีมาก มีหายไปบางช่วงของทะเลทราย หรือในอุโมงค์ ซึ่งการซื้อนั้นก็ดูจะยุ่งยากมากเพราะหาเกือบทุกร้านจะพูดภาษาจีน หาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ยากมาก และที่สำคัญคือซิมการ์ดที่ซื้อต้องลงทะเบียนด้วย ดังนั้นต้องคุยกับคนขายให้รู้เรื่องกันเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้หลายๆร้านก็ไม่ยอมขายให้คนต่างชาติด้วย ส่วนอัตราค่าริการนั้นสามารถตรวจสองได้จากเว็บไซต์ 310010.com ซึ่งพอเห็นค่าบริการแล้วก็คิดว่าเปิดดาต้าโรมมิงจากไทยแบบอันลิมิตแล้วหารค่าใช้จ่ายกันกับเพื่อนคุ้มกว่าแน่นอนสำหรับคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตเหมือนสาดน้ำสงกรานต์อย่างเราๆ