เซินเจิ้น มีชื่อปรากฏครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ช่วงรัชสมัยหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1410) คำว่า “เซิ่น” แปลว่า ลึก ส่วนคำว่า “เจิ้น” เป็นภาษาท้องถิ่นใช้เรียกคูน้ำระหว่างท้องนา เนื่องจากที่นี่มีแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับข้างหมู่บ้านมีคูน้ำลึกอยู่สายหนึ่ง จึงได้ตั้งชื่อตามลักษณะภูมิประเทศ ในสมัยก่อน ด้วยเหตุนี้ทำให้เมืองเซินเจิ้นเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่งทั้งธรรมชาติ วัดวาอาราม ทำให้เกิดทัวร์เซินเจิ้นมากมาย
“เซินเจิ้น” เป็น 1 ใน 4 เมืองระดับหนึ่งของประเทศจีน อีกสามเมืองคือปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และกวางเจา ตั้งอยู่ภาคใต้ของจีน ติดกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน เนื่องจากมีที่ตั้งที่ย่อดเยี่ยมและได้สนับสนุนจากรัฐบาลจีน เซินเจิ้นเป็น 1 ในเมืองที่มีพัฒนาการที่ดีที่สุดในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการจัดการทางสังคมของประเทศจีน และปัจจุบันนี้กำลังเดินเข้าสู่ความเป็นสากล เวลามาเที่ยวจะได้รับรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายจากเทคโนโลยี
เนื่องจากติดกับฮ่องกง เป็นเมืองผสมผสานวัฒนธรรมแแบบดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัย เซินเจิ้นที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล เป็นเมืองที่สะอาด มีอากาศเย็นสบาย สีฤดูเหมือนฤดูใบไม้ผลิ มีสถานที่ท่องดที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมากมาย การท่องเที่ยวของเซินเจิ้นมีชื่อเสียงโดยสวนสนุกและทัศนียภาพของชายหาดที่ห้ามผิดพลาด ปัจจุบันเซินเจิ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
เป็นสวนสนุกที่จำลองสถานที่ต่างๆจากทั่วโลก ถือเป็น 1 ใน สถานที่ท่องเทีียวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเซินเจิ้น ภายในสวนสนุกจะแป่งเป็นเขตสนามโลก เขตเอเชีย เขตโอเชียเนีย เขตยุโรป เขตแอฟริกา เขตสหรัฐอเมริกา เขตประติมากรรมและถนนนานาชาติ นอกจากได้ชมสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีการแสดงวัฒธรรมทั่วโลก เช่น ซะโด การเต้นรำแบบแอฟริกา เป็นต้น
ภาพวินโดวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ จาก://www.williamlong.info
อยากเที่ยวยังทั้วประเทศจีนในวันเดียวไหม งั้นมาเยี่ยมชมที่หมู่บ้านวัฒนธรรมก็ได้แล้ว หมู่บ้านวัฒนธรรมเป็นสถานที่จำลองสถานที่ต่างๆจากทั่วประเทศจีน เช่น กำแพงเมืองจีน ถ้ำมั่วเกาแห่งตุนหวง สุสานฉินสื่อหวง ฯลฯ นอกจากนั้น ยังมีการแสดงต่างๆที่จะแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของจีน น่าไปเที่ยวมาก
ภาพหมู่บ้านวัฒนธรรมจาก://you.ctrip.com
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีทั้งชายหาดและภูเขา ชายหาดมีความยาว 1800 เมตร เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในเซินเจิ้น ภายในสวนมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครอบคลุม และจะแป่งเป็นเขตการว่ายน้ำ เขตการออกกำลังกาย เขตผ่อนคลาย เป็นต้น เป็นสถานที่ได้รับความชื่นชมจากชาวเซินเจิ้นและนักท่องเที่ยงต่างชาติ
ภาพสวนชายหาดต้าไหมซาจาก://www.shenzhentour.com/
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าแผ่นดินจีนมีขนาดใหญ่มาก ยังมีหลายที่ที่สวยงามและไม่อยู่ในเส้นทางของบริษัททัวร์ทั่วไป คือเราไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่อันน่าอัศจรรย์เหล่านั้นได้เลยจากการใช้บริการบริษัททัวร์ในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศจีน มีเพียงบริษัทนำเที่ยวไม่กี่แห่งเท่านั้นที่รู้จักเส้นทางการท่องเที่ยวนั้นและสามารถวางแผนการท่องเที่ยวให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจริงๆเท่านั้น โดยไม่สามารถสร้างโปรแกรมขายทั่วไปตามท้องตลาดได้ เนื่อจากราคาทัวร์จะสูงเกินไปกับการไปสถานที่ๆไม่มีใครรู้จักกันและทำให้หลายคนไม่สนใจถึงแม้ว่าเส้นทางการท่องเที่ยวนี้จะมีประบการณ์ที่ไม่เหมือนการเดินทางที่ผ่านมารอให้เราสัมผัสก็ตาม
วีซ่าท่องเที่ยวสำหรับที่สถานฑูตจีนจะเรียกเป็นประเภท “L” สามารถยื่นขอได้ด้วยตนเองสำหรับท่านที่มีเวลามากพอ โดยเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าประกอบด้วย (1) หนังสือเดินทางที่เหลืออายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (2) แบบฟอร์มการขอวีซ่าจีน (3) รูปถ่าย โดยสามารถดูรายละเอียดของรูปถ่ายได้ที่ (ระเบียบใหม่เรื่องรูปถ่ายการขอวีซ่าจีน 2560) เนื่องจากเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบรูปถ่ายเมื่อไม่นานมานี้ (4) ใบจองตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (5) ใบจองโรงแรมหรือกรณีไปพักกับเพื่อนหรือญาติ จะต้องมีจดหมายเชิญจากผู้ที่อาศัยอยู่ในจีน
สำหรับหลายท่านที่ไม่มีเวลาในการดำเนินการยื่นวีซ่าจีนด้วยตนเอง และให้ตัวกลางอื่นๆเป็นผู้ดำเนินการแทนจะต้องมีใบมอบอำนาจเป็นภาษาอังกฤษพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่มายื่น และสำหรับผู้เดินทางที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีเอกสารเพิ่มเติมคือ (6) สำเนาสูติบัตร (7) สำเนาบัตรประชาชนพ่อและแม่ โดยในแบบฟอร์มหัวข้อที่ 2 ต้องให้พ่อแม่เซ็นชื่อกำกับ
การของวีซ่าจีนสำหรับการท่องเที่ยวจะมีอายุการใช้ 60 วันนับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศจีน และสำหรับการเรียนระยะสั้นถ้าหากระยะเวลาไม่เกิน 60 วันก็สามารถใช้วีซ่าประเภทท่องเที่ยวได้เช่นกัน
ประเทศจีนใช้แรงดันไฟฟ้าประมาณ 220 โวลต์ที่ความถี่ 50-60 เฮิร์ต เหมือนบ้านเราเลยทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าจะทำงานได้ไหม (เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในบ้านเราก็มาจากจีนกันทั้งนั้น) ยิ่งกว่านั้นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันออกแบบมาให้รองรับทั้งแรงดันไฟฟ้า 100 โวลต์ถึง 250 โวลต์กันอยู่แล้ว ที่ต้องเป็นห่วงคือเรื่องของปลั๊กไฟ เพราะที่จีนจะมีการใช้เต้ารับหลักๆอยู่ 2 แบบ คือแบบ A (Type A) และแบบ I (Type I) โดยถ้าเป็นแบบ A ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับอุปกรณ์พวกที่ชาร์จแบตไอโฟนหรืออีกหลายญี่ห้อ แต่ก็เห็นอยู่หลายญี่ห้อที่เป็นแบบกลมหรืออะแดปเตอร์โน๊ตบุ๊คก็ต้องหายากหน่อย ทางที่ดีสำหรับนักเดินทางแล้วก็พก Uniersal Adapter ไว้อุ่นใจกว่าครับ
ภาพปลั๊กแบบต่างๆจาก //gearpatrol.com/2015/02/06/guide-to-plugs-and-sockets-by-country/
ถ้าเราเดินทางไปกับบริษัททัวร์หรือซื้อทัวร์จีน ส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะเป็นคนเตรียม Pocke Wifi ไว้ให้เราใช้เป็นกลุ่มอยู่แล้ว (ถ้าเคยไปกับบริษัทไหนแล้วไม่มีก็…) แต่สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวเองหรือต้องการใช้อินเตอร์เน็ตแยกกับคนอื่นก็มีวิธีง่ายๆ 2 วิธี คือเปิด Data Roaming กับซิมที่เราใช้ในประเทศไทยนี่แหละครับ หรือจะเลือกซื้อซิมการ์ดที่จีนใช้งานเลยก็ได้
เริ่มจากโรมมิ่งอันลิมิตก่อนเลย มีสามค่ายยักษ์ใหญ่ในไทยเราสามารถเปิดโรมมิ่งได้ทั้ง AIS DTAC และ TRUE ซึ่งจะมีราคาประมาณ 300 -2200 บาท ตามระยะเวลาการใช้งาน 1 – 7 วัน แล้วแต่เครือข่าย โดยแต่ละเครือข่ายมีรายละเอียดต่างกันลองศึกษาดูจากเว็บไซต์ของเครือข่ายโดยตรงจเป็นข้อมูลปัจจุบันมากกว่า
สำหรับการซื้อซิมการ์ดจากประเทศจีนใช้งาน ต้องเช็คให้ดีว่าโทรศัพท์มือถือของเรารองรับช่วงความถี่ของผู้ให้บริการหรือไม่ จากผู้ให้บริการสามรายใหญ่คือ China Mobile / China Unicom / China Telecom
โดยถ้าเราดูจากตารางเปรียบเทียบความถี่สัญญาณที่รองรับกับโทรศัพท์มือถือบ้านเรามากที่สุดก็น่าจะเป็น China Unicom และเล่าต่อๆกันมาว่า China Unicom มีสัญญาณครอบคลุมเป็นลำดับสองกันเลย ซึ่งจากผู้ที่เคยใช้งานมาก็ถือว่าสัญญาณ 3G/4G อยู่ในระดับที่ดีมาก มีหายไปบางช่วงของทะเลทราย หรือในอุโมงค์ ซึ่งการซื้อนั้นก็ดูจะยุ่งยากมากเพราะหาเกือบทุกร้านจะพูดภาษาจีน หาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ยากมาก และที่สำคัญคือซิมการ์ดที่ซื้อต้องลงทะเบียนด้วย ดังนั้นต้องคุยกับคนขายให้รู้เรื่องกันเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้หลายๆร้านก็ไม่ยอมขายให้คนต่างชาติด้วย ส่วนอัตราค่าริการนั้นสามารถตรวจสองได้จากเว็บไซต์ 310010.com ซึ่งพอเห็นค่าบริการแล้วก็คิดว่าเปิดดาต้าโรมมิงจากไทยแบบอันลิมิตแล้วหารค่าใช้จ่ายกันกับเพื่อนคุ้มกว่าแน่นอนสำหรับคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตเหมือนสาดน้ำสงกรานต์อย่างเราๆ