จางเจียเจี้ย (张家界) เมืองที่เหล่านักเดินทางมาทัวร์ประเทศจีนให้ฉายากันว่า “หุบเขาแห่งสวรรค์” ความสวยงามของขุนเขาที่จางเจียเจี้ยนี้ก้องไปถึงโลกตะวันตกกระทั่งมีการนำไปใช้เป็นแบบในภาพยนต์ชื่อดังอย่าง Avatar มาแล้ว และเมื่อมาทัวร์จีนจางเจียเจี้ยแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้คงหนีไม่พ้นการทดสอบความกล้าบนสะพานกระจกที่ยาวที่สุดในโลกบนความสูงจากพื้นถึงประมาณตึกร้อยชั้น รวมถึงระเบียงแก้วเทียนเหมินที่ถึงจะมีความยาวแค่ประมาณ 60 เมตร แต่เรื่องความสูงนี้ถึงกับมองแทบไม่เห็นพื้นกันเลย
“จางเจียเจี้ย”เป็น 1 ในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน มีภูมิทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับโลก มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และสภาพอากาศที่ดีเยี่ยม ตลอดจนคนที่เคยเที่ยวยังจางเจียเจี้ยจำนวนไม่นับไม่ถ้วนชื่นชมว่า “ชีวิตเราถ้าไม่ไปเที่ยวที่จางเจียเจ้ ไปครบทุกประเทศก็ไม่พอ”
จางเจียเจี้ยตั้งอยู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และเป็นเมืองระดับจังหวัดในมณฑลหูหนาน ก่อสร้างเมืองจางเจียเจี้ยเมื่อปี ค.ศ.1988 เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ตั้งแต่ที่เมืองสร้างขึ้น อุตสาหกรรมท่องเที่ยงพัฒนาอย่างรวดเร็ว การจราจรการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานทางการท่องเที่ยวสร้างได้สมบูรณ์แบบ ยอดมูลค่าการท่องเที่ยวนำหน้าเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งประเทศจีนและต่างประเทศ
การแต่งตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศจีนเมื่อปี ค.ศ. 1982 ได้การประกาศให้เป็นมรดกโลกธรรมชาติในปี ค.ศ. 1992 ได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนยอดเยี่ยมของโลก ทิวทัศน์ปาฏิหาริย์แห่งใต้หล้า” ภายในอุทยานมียอดเขาสูงตระหง่านมากกว่า 3000 แห่ง ยอดเขาเหล่านี้มีรูปร่างอย่างแปลกประหลาด มีความงดงามมาก อากาศจะเย็นสบายเป็นสถานที่พักตากอากาศที่ดีมากแห่งหนึ่ง ลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าไม้ ทำให้อากาศมีความชื่นสูง อุทยานอุดมไปด้วยทรัพยากรสัตว์ป่า อุทยานยังถือว่าเป็น”พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ”
ภาพอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย //dottech.org/
ถือว่าเป็นถ้ำหินปูนที่สวยที่สุดในประเทศจีน มีพื้นที่ใหญ่ 100,000 ตารางกิโลเมตร ภายในมีความสูง 140 เมตร ความยาว 7.5 กิโลเมตร ภายในถ้ำถูกแป่งเป็น 4 ชั้น มีหุบเขาหินปูนที่มีรูปร่างสวยงามแปลกตาเป็นจำนวนมาก ประกอบแสงสีตระการตา เป็นวิวที่น่าประทับใจมาก ส่วนวิธีการชมมีการเดินทางทางบนและทางน้ำ
ภาพถ้ำมังกรเหลืองจาก://www.sohu.com/
ทะเลสาบเป่าเฟิงประกอบด้วยทะเลสาบเป่าเฟิงและหมู่บ้านยิงโว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ประกอบด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นบ้าน เป็นสถานที่ถ่ายทำละครของละครดังจีน”ไซอิ๋ว” ทะเลสาบตั้งอยู่บนช่องเขาสูง มีความยาวประมาณ 2. 5 กิโลเมตร รายล้อมด้วยยอดเขาที่สวยงาม น้ำใสสะอาด ทำให้ทะเลสาบเหมือนมรกตอยู่ระหว่างภูเขา ส่วนหมู่บ้านยิงโวจะแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านของชนชาติถู่เจีย
ภาพทะเลสาบเป่าเฟิงจาก://touch.travel.qunar.com
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าแผ่นดินจีนมีขนาดใหญ่มาก ยังมีหลายที่ที่สวยงามและไม่อยู่ในเส้นทางของบริษัททัวร์ทั่วไป คือเราไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่อันน่าอัศจรรย์เหล่านั้นได้เลยจากการใช้บริการบริษัททัวร์ในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศจีน มีเพียงบริษัทนำเที่ยวไม่กี่แห่งเท่านั้นที่รู้จักเส้นทางการท่องเที่ยวนั้นและสามารถวางแผนการท่องเที่ยวให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจริงๆเท่านั้น โดยไม่สามารถสร้างโปรแกรมขายทั่วไปตามท้องตลาดได้ เนื่อจากราคาทัวร์จะสูงเกินไปกับการไปสถานที่ๆไม่มีใครรู้จักกันและทำให้หลายคนไม่สนใจถึงแม้ว่าเส้นทางการท่องเที่ยวนี้จะมีประบการณ์ที่ไม่เหมือนการเดินทางที่ผ่านมารอให้เราสัมผัสก็ตาม
วีซ่าท่องเที่ยวสำหรับที่สถานฑูตจีนจะเรียกเป็นประเภท “L” สามารถยื่นขอได้ด้วยตนเองสำหรับท่านที่มีเวลามากพอ โดยเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าประกอบด้วย (1) หนังสือเดินทางที่เหลืออายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (2) แบบฟอร์มการขอวีซ่าจีน (3) รูปถ่าย โดยสามารถดูรายละเอียดของรูปถ่ายได้ที่ (ระเบียบใหม่เรื่องรูปถ่ายการขอวีซ่าจีน 2560) เนื่องจากเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบรูปถ่ายเมื่อไม่นานมานี้ (4) ใบจองตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (5) ใบจองโรงแรมหรือกรณีไปพักกับเพื่อนหรือญาติ จะต้องมีจดหมายเชิญจากผู้ที่อาศัยอยู่ในจีน
สำหรับหลายท่านที่ไม่มีเวลาในการดำเนินการยื่นวีซ่าจีนด้วยตนเอง และให้ตัวกลางอื่นๆเป็นผู้ดำเนินการแทนจะต้องมีใบมอบอำนาจเป็นภาษาอังกฤษพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่มายื่น และสำหรับผู้เดินทางที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีเอกสารเพิ่มเติมคือ (6) สำเนาสูติบัตร (7) สำเนาบัตรประชาชนพ่อและแม่ โดยในแบบฟอร์มหัวข้อที่ 2 ต้องให้พ่อแม่เซ็นชื่อกำกับ
การของวีซ่าจีนสำหรับการท่องเที่ยวจะมีอายุการใช้ 60 วันนับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศจีน และสำหรับการเรียนระยะสั้นถ้าหากระยะเวลาไม่เกิน 60 วันก็สามารถใช้วีซ่าประเภทท่องเที่ยวได้เช่นกัน
ประเทศจีนใช้แรงดันไฟฟ้าประมาณ 220 โวลต์ที่ความถี่ 50-60 เฮิร์ต เหมือนบ้านเราเลยทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าจะทำงานได้ไหม (เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในบ้านเราก็มาจากจีนกันทั้งนั้น) ยิ่งกว่านั้นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันออกแบบมาให้รองรับทั้งแรงดันไฟฟ้า 100 โวลต์ถึง 250 โวลต์กันอยู่แล้ว ที่ต้องเป็นห่วงคือเรื่องของปลั๊กไฟ เพราะที่จีนจะมีการใช้เต้ารับหลักๆอยู่ 2 แบบ คือแบบ A (Type A) และแบบ I (Type I) โดยถ้าเป็นแบบ A ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับอุปกรณ์พวกที่ชาร์จแบตไอโฟนหรืออีกหลายญี่ห้อ แต่ก็เห็นอยู่หลายญี่ห้อที่เป็นแบบกลมหรืออะแดปเตอร์โน๊ตบุ๊คก็ต้องหายากหน่อย ทางที่ดีสำหรับนักเดินทางแล้วก็พก Uniersal Adapter ไว้อุ่นใจกว่าครับ
ภาพปลั๊กแบบต่างๆจาก //gearpatrol.com/2015/02/06/guide-to-plugs-and-sockets-by-country/
ถ้าเราเดินทางไปกับบริษัททัวร์หรือซื้อทัวร์จีน ส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะเป็นคนเตรียม Pocke Wifi ไว้ให้เราใช้เป็นกลุ่มอยู่แล้ว (ถ้าเคยไปกับบริษัทไหนแล้วไม่มีก็…) แต่สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวเองหรือต้องการใช้อินเตอร์เน็ตแยกกับคนอื่นก็มีวิธีง่ายๆ 2 วิธี คือเปิด Data Roaming กับซิมที่เราใช้ในประเทศไทยนี่แหละครับ หรือจะเลือกซื้อซิมการ์ดที่จีนใช้งานเลยก็ได้
เริ่มจากโรมมิ่งอันลิมิตก่อนเลย มีสามค่ายยักษ์ใหญ่ในไทยเราสามารถเปิดโรมมิ่งได้ทั้ง AIS DTAC และ TRUE ซึ่งจะมีราคาประมาณ 300 -2200 บาท ตามระยะเวลาการใช้งาน 1 – 7 วัน แล้วแต่เครือข่าย โดยแต่ละเครือข่ายมีรายละเอียดต่างกันลองศึกษาดูจากเว็บไซต์ของเครือข่ายโดยตรงจเป็นข้อมูลปัจจุบันมากกว่า
สำหรับการซื้อซิมการ์ดจากประเทศจีนใช้งาน ต้องเช็คให้ดีว่าโทรศัพท์มือถือของเรารองรับช่วงความถี่ของผู้ให้บริการหรือไม่ จากผู้ให้บริการสามรายใหญ่คือ China Mobile / China Unicom / China Telecom
โดยถ้าเราดูจากตารางเปรียบเทียบความถี่สัญญาณที่รองรับกับโทรศัพท์มือถือบ้านเรามากที่สุดก็น่าจะเป็น China Unicom และเล่าต่อๆกันมาว่า China Unicom มีสัญญาณครอบคลุมเป็นลำดับสองกันเลย ซึ่งจากผู้ที่เคยใช้งานมาก็ถือว่าสัญญาณ 3G/4G อยู่ในระดับที่ดีมาก มีหายไปบางช่วงของทะเลทราย หรือในอุโมงค์ ซึ่งการซื้อนั้นก็ดูจะยุ่งยากมากเพราะหาเกือบทุกร้านจะพูดภาษาจีน หาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ยากมาก และที่สำคัญคือซิมการ์ดที่ซื้อต้องลงทะเบียนด้วย ดังนั้นต้องคุยกับคนขายให้รู้เรื่องกันเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้หลายๆร้านก็ไม่ยอมขายให้คนต่างชาติด้วย ส่วนอัตราค่าริการนั้นสามารถตรวจสองได้จากเว็บไซต์ 310010.com ซึ่งพอเห็นค่าบริการแล้วก็คิดว่าเปิดดาต้าโรมมิงจากไทยแบบอันลิมิตแล้วหารค่าใช้จ่ายกันกับเพื่อนคุ้มกว่าแน่นอนสำหรับคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตเหมือนสาดน้ำสงกรานต์อย่างเราๆ