ฮ่องกง เมื่อได้ยินชื่อนี้แล้วบางคนอาจจะนึกถึงของกิน บางคนอาจนึกถึงสินค้าแบรนด์เนม หรือแม้แต่เหล่าผู้คลั่งในเทคโนโลยีเองก็อาจจะนึกถึงเทคโนโลยีคุณภาพสูงที่แตกต่างจากจีนโดยสิ้นเชิงถึงแม้จะอยู่ใกล้กันแค่ไหนก็ตาม แต่นอกจากเรื่องทั่วๆไปแล้ว ฮ่องกงยังมีอะไรอีกมาากมาย ให้เหล่้านักเดินทางเข้ามาเยือนดินแดนแห่งนี้อยู่ทั้งปี หรือแม้แต่บริษัททัวร์หลายๆบริษัทเองก็ยังทำโปรแกรมท่องเที่ยวเส้นทางทัวร์เกาหลีให้เหล่านักเดินทางได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ วัฒนธรรม และความศิวิไลซ์ที่กระจุกตัวอยู่ร่วมกันบนเกาะฮ่องกงแห่งนี้
“เกาะฮ่องกง”เป็นเขตบริหารพิเศษของจีน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน” (Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ คนที่ฮ่องกงเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นมีเชื้อสายจีน และมีชาวต่างชาติประมาณ 6-7 เปอร์เซ็น ประชากรประมาณเจ็ดล้านคนบนพื้นที่เพียงแค่ 1,104 ตารางกิโลเมตร (พื้นที่กรุงเทพมหานคร 1,569 ตารางกิโลเมตร กับประชากรประมาณ 5.7 ล้านคนและประชากรแฝงประมาณ 8.4 ล้านคน ) และเป็นที่รู้จักกันดีว่าฮ่องกงมีความหลากหลายของวัฒนธรรมและการค้าสูงมากบวกกับสิ่งก่อนสร้างที่มีขึ้นมาอย่างมากมาย ทำให้ฮ่องกงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สามารถสร้างความตื่นตาให้กับนักท่องเที่ยวได้มากเช่นอีกหลายเมือง
ถึงแม้ว่าฮ่องกงจะเป็นเมืองที่มีพื้นที่ขนาดเล็กกว่ากรุงเทพมหานคร แต่ก็สามารถสร้างความประับใจในด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้หลายๆเมืองในโลกเลย การเที่ยวฮ่องกงก็จะมีทั้งการเที่ยวในทางศาสนา วัฒนธรรม ความงาม สถาปัตยกรรม และความศิวิไลซ์ เช่น
เป็นการแสดงแสงริมน้ำสุดอลังการที่จะมีทุกวันเวลา 2 ทุ่มของฮ่องกง โดยแสงทั้งจากริมน้ำและจากตึกจะฉายเล่นไปตามจังหวะเพลง ซึ่งว่ากันว่าจุดที่ดีที่สุดที่เหมาะกับการชมการแสดง Symphony of Lights อยู่ที่ด้านหน้าของ Hong Kong Cultural Centre
เป็นการเที่ยวที่พลาดไม่ได้กับการชมเกาะลันเตาแบบ 360 องศา บนกระเช้า ซึ่งสามารถเห็นวิวด้านล่างอย่างหมู่บ้านวัฒนธรรมปิงนองและทัศนียภาพอื่นๆที่หาดูได้ยากจากมุมอื่นของฮ่องกง ซึ่งการเดินทางบนกระเช้าจะสามารถพาเราไปไหว้พระใหญ่ที่อยู่บนยอดเข้าได้
ภาพกระเช้านองปิงโดย Hew Lee Yee: //www.klook.com/article/1617-ngong-ping-36-hong-kong
เดอะพีค หรือ วิคตอเรียพีค น่าจะเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วไม่มาเห็นเป็นไม่ได้เลย เพราะจะเป็นจุดที่สามารถเห็นเมืองทั้งเมืองของฮ่องกงได้เต็มสองตา เห็นแบบสองตามองพร้อมกันก็ยังไม่พอ อีกทั้งเราจะยังเห็นสีสรรต่างๆที่ถูกวางแผนไว้อย่างดีจากผังเมืองของฮ่องกงให้เราได้เห็นความงามตั้งแต่พื้นดินจนถึงพื้นน้ำของฮ่องกงได้จากจุดนี้
และยังมีถานที่อื่นๆที่น่าสนใจที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมายที่เหล่านักท่องเที่ยวควรค่าแก่การไปสัมผัสให้ได้เช่น วัดหวังต้าเซียน ตลาดยวนโป ตลาดหยก ถนนรองเท้าผ้าใบฟาหยุน ย่านตึกเกาฮอลลีวู้ด อ่าวรีพลัส …
เป็นเรื่องน่ายินดีอีกเรื่องสำหรับสำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงไม่ต้องขอวีซ่าเข้าฮ่องกง และสามารถอยู่ในฮ่องกงได้สูงสุด 30 วัน แต่สำหรับท่านที่ต้องกาอยู่ที่ฮ่องกงมากกว่า 30 วัน ต้องดำเนินการขอวีซ่าหรือใบอนุญาตเข้าเมืองจาก สถานกงสุลหรือสถานทูตจีน
แรงดันไฟฟ้าที่ฮ่องกงใช้แรงดันมาตรฐาน 220 โวลต์ที่ความถี่ 50 เฮิร์ต ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ไทย ก็มั่นใจได้เลยว่าเราจะสามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากที่ไทยไปใช้งานที่ฮ่องกงได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ก็แอบเห็นหลายๆโรงแรมในฮ่องกงจะมีปลั๊กสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าแรงดัน 100 โวลต์ไว้ให้นักท่องเที่ยวในห้องน้ำ แต่ที่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าจากบ้านเราก็น่าจะเป็นรูปแบบปลั๊กนี่แหละครับ ซึ่งที่ฮ่องกงส่วนใหญ่จะเป็นปลั๊ก Type G แบบเดียวกับที่อังกฤษใช้กันเลย ดังนั้นนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ถ้าจะไปฮ่องกงก็พก Universal Adapter ไปเลยดีกว่าครับ ซึ่งก็ควรจะพกไปทุกที่ทั่วโลกเลย
ภาพปลั๊กแบบต่างๆ: //gearpatrol.com/2015/02/06/guide-to-plugs-and-sockets-by-country/
สำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ฮ่องกงมีตัวเือกให้เราเลือกใช้งานเยอะมากตั้งแต่ไวไฟยันโรมมิ่ง และที่ฮ่องกงก็มีไวไฟฟรีเกือบทุกซอกหลืบกันเลยความเร็วก็ระดับปานกลางถึงเร็ว แต่ถ้าใครจะเอาชัวร์ไม่เน้นรับสายกะใช้เน็ตอย่างเดียวก็มีซิมการ์ดฮ่องกงอย่าง 12free และเจ้าอื่นๆอีกมากมาย อย่าง 12free ราคา 98 เหรียญฮ่องกง จะมีเงินอยู่ในนั้น 98 เหรียญ ซึ่งสามารถใช้ซื้อแพคเกจอินเตอร์เน็ต 7 วันแบบอันลิมิตราคา 78 เหรียญได้เลย และยังเหลืออีก 20 เหรียญไว้โทรได้ด้วย แต่เหมือนว่าซิมที่ฮ่องกงจะเอาไปใช้ที่มาเก๊าไม่ได้ คือใช้งานได้แต่เป็นระบบโรมมิ่งซึ่งค่าบริการไม่ต่างจากการโรมมิ่งมาจากที่ไทยเลย แต่ถ้าใครจะเปิดโรมมิ่งจากไทยไปเลยทั้งสามค่ายหลักบ้านเราก็มีบริการไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว