โตเกียว (東京) หนึ่งมหานครโตเกียวมีสถานที่หลากหลายให้ได้เลือกเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นวัด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆ เช่น ที่ย่านนากามิเซโดริ (Nakamise Dori) เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกน่ารัก ๆ สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติโตเกียวมีสวนสาธารณะ “อุเอะโนะ” ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นนิยมมาพักผ่อนสถานที่สำคัญ
“โตเกียว” เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่เป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก โตเกียวเดิมคือเมืองเอโดะ ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2018 เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ไม่กี่หลังคาเรือนจนกระทั่งในปีพุทธศักราช 2146 ตระกูลโชกุนโตกุงว่าเอยาสึได้สร้างทำเนียบรัฐบาลขึ้นที่เอโดะจึงทำให้พื้นที่โดยรอบมีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว กระทั่งโตเกียวกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ภายหลังเมื่อระบอบโชกุนสิ้นสุดลงในปีพุทธศักราช 2411 จักรพรรดิเมจิ ได้เปลี่ยนชื่อเมือง เอโดะมาเป็นกรุงโตเกียวที่มีความหมายว่า “เมืองหลวงตะวันออก”
เนื่องจากโตเกียวเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น หากพูดถึงญี่ปุ่น ก็จะนึกถึงโตเกียว เป็นเมืองที่ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวพักผ่อนกันวันนี้เราจะยกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวให้ทุกๆคนเลือกไปท่องเที่ยวกัน
เป็นศาลเจ้าแบบชินโตขนาดใหญ่ ถูกสร้างเพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิและพระมเหสีโชเคง บริเวณทางเข้าจะมีสัญลักษณ์ของศาลเจ้าเมจิคือเสาโทริอิขนาดใหญ่ ก่อนที่จะเข้าไปด้านในตามธรรมเนียมของคนญี่ปุ่นจะต้องทำความสะอาดร่างกายโดยการล้างมือและป้วนปากเสียก่อน มีการเขียนคำอวยพรลงในอิมะ (Ema) ซึ่งจะเป็นแผ่นไม้เล็กๆ (ราคาแผ่นละ 500 เยน) เขียนเสร็จก็อธิษฐาน แล้วนำไปแขวนไว้
ภาพศาลเจ้าจาก//bluebalu.com/2012/11/12/tokyo-meiji-jingu/
โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower ) คือหอคอยสื่อสารขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 332.6 เมตร ได้ต้นแบบมาจากหอไอเฟลที่ปารีสประเทศฝรั่งเศส ด้านในมีทั้ง Aquarium และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวอยู่ 2 จุด คือ Main Observatory ที่ความสูง 150 เมตร และ Special Observatory ที่ความสูง 250 เมตร
ภาพหอโตเกียว ทาวเวอร์ จาก//tokyobyfood.com/tokyo-tower-food-guide/tokyo-tower-3/
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ( Tokyo Disneyland)สร้างขึ้นโดยบริษัทผลิตภาพยนตร์การ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ ประกอบด้วยธีมหลัก 7 ธีม โดยตกแต่งตามฤดูกาล ทั้งหมดล้วนเป็นสวนสนุกแบบดั้งเดิมเฉกเช่นหลุดมาจากในฟิลม์และจินตนาการของดิสนีย์เลยทีเดียว นับเป็นสวนสนุกที่มีนักท่องเที่ยวต่อปีเกือบ 20 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและมากเป็นอันดับ 2 ของโลก
ภาพโตเกียวดิสนีย์แลนด์จาก//www.weekendgowhere.sg/deals/tokyo-disneyland-1-day-300
ในเมืองโตเกียวนั้นยังมีที่เที่ยว วัด หรือสถานที่ธรรมชาติ ให้ทุกคนได้เลือกเที่ยวกันอีกมากมาย ตัวอย่างที่ยกขึ้นมาเป็นเพียงสถานที่คร่าวๆเท่านั้น ขอบคุณข้อมูลสถานที่เที่ยวจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่อ้างอิงมา หากเพื่อนคนในไปทัวร์ญี่ปุ่นก็อย่าลืมแวะไปเมืองโตเกียวกันด้วยน่ะครับ
วีซ่าท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปกับทัวร์ญี่ปุ่นหรือไปเองก็ตาม ไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าแล้วสำหรับการเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน สามารถใช้หนังสือเดินทางประเทศไทยผ่านเข้าประเทศได้เลย โดยสิทธิ์วีซ่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสำหรับประเทศไทยจะมีอายุ 15 วัน ซึ่งก็เต็มเหนี่ยวมากสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นในหนึ่งทริปการเดินทาง แต่สำหรับท่านที่ต้องการวีซ่าประเภทอื่น สามารถตรวจสอบรายละเอียดที่เป็นปัจจุบันได้ที่เว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย www.th.emb-japan.go.jp
ประเทศญี่ปุ่นใช้แรงดันไฟฟ้าประมาณ 100 โวลต์ที่ความถี่ 50-60 เฮิร์ต แต่ประเทศไทยบ้านเราดันใช้ระบบไฟฟ้าแรงดันประมาณ 220 โวลต์(แต่ความถี่อยู่ที่ 50-60 เฮิร์ต เหมือนกัน) ซึ่งไม่ต้องเป็นกังวลไปว่าจะไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำมาจากประเทศไทยไม่ได้ เพราะว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในปัจจุบันออกแบบมาให้สามารถทำงานได้ตั้งแต่แรงดันไฟฟ้า 100 – 250 โวลต์กันอยู่แล้ว ที่ต้องสนใจเป็นพิเศษอาจจะต้องสนใจปลั๊กที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น เพราะเกือบทั้งหมดจะเป็นแบบ A (Type A) คือเป็นแบสองขาแบนไม่มีกราวด์ถ้าเป็นที่ชาร์จแบตมือถือส่วนใหญ่ในไทยก็ฉลุยเลย แต่สำหรับอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊คคงต้องพก Uniersal Adapter ไว้อุ่นใจกว่าครับ
ภาพปลั๊กแบบต่างๆจาก //gearpatrol.com/2015/02/06/guide-to-plugs-and-sockets-by-country/
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าญี่ปุ่นมีไวไฟฟรีให้ใช้เยอะมากเลยครับตามเมืองใหญ่ๆหรือโรงแรมส่วนใหญ่ ถ้าเป็นที่สนามบินก็เร็วมากซะด้วย แต่ถ้าเป็นตามเมืองก็ช้าเอามากโดยเฉพาะถ้าขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินนี่แทบใช้งานไม่ได้ ทำให้บริษัททัวร์ทั้งหลายรวมถึงทัวร์ญี่ปุ่นเองส่วนใหญ่ก็จะยังเตรียม Pocket Wifi ไว้ให้กับลูกค้าอยู่ดี แต่สำหรับหลายๆท่านที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวญี่ป่นด้วยตนเองหรือต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตแยกกับคนอื่นสำหรับทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ก็มีทางเลือกคือ
เปิดโรมมิ่งซื้อแพคเกจไม่จำกัดจากไทยไปใช้งานเลย ค่ายยักษ์ทั้งสามผู้ให้บริการทั้ง AIS DTAC และ TRUE ซึ่งจะมีราคาประมาณ 250 -2600 บาท ตามระยะเวลาการใช้งาน 1 – 7 วัน แล้วแต่เครือข่าย โดยแต่ละเครือข่ายมีรายละเอียดต่างกันลองศึกษาดูจากเว็บไซต์ของเครือข่ายโดยตรงจเป็นข้อมูลปัจจุบันมากกว่า
ซื้อซิมการ์ดญี่ปุ่นมาใช้งานเป็นอีกวิธีที่จะใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ โดยส่วนใหญ่คนไทยเราจะใช้บริการจาก bmobile ซึ่งเป็นซิมการ์ดจาก Docomo และมีให้ใช้งานซิมการ์ดถึง 2 แบบ คือ แบบ PAYG SIM และแบบ VISITOR SIM สำหรับ PAYG SIM จะเป็นซิมการ์ดแบบลงทะเบียน จะสามารถเลือกใช้งานได้ในระยะเวลา 7 วัน และ 14 วัน ซึ่ง PAYG SIM ในระยะเวลา 7 วัน จะสามารถใช้โทรออก-รับสาย และส่ง SMS ได้รวมไปถึงใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 4G และ 3G ได้สูงสุด 3 GB โดยจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 9,980 เยน (ประมาณ2,700 บาท) ส่วนแบบ 14 วัน จะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 3 GB เพียงอย่างเดียว และมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 4,990 เยน (ประมาณ 1,350 บาท) ส่วน VISITOR SIM นั้นไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนซิมการ์ดให้เลย ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ 2 แบบ คือ แบบใช้งานอินเทอร์เน็ต 1 GB โดยไม่กำหนดระยะเวลา และแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตในระยะเวลา 14 วัน โดยสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน 4G/3G แบบไม่จำกัด แต่ความเร็วอินเทอร์เน็ตแค่ 300 Kbps เท่านั้น โดย VISITOR SIM ทั้ง 2 แบบ จะมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 3,686 เยน (ประมาณ 1,000 บาท)