ปูซาน (Busan) หนึ่งเมืองในประเทศเกาหลีที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงโซล มีทัศนียภาพของภูเขาโอบล้อมเมืองเอาไว้ มีผืนน้ำขนาดใหญ่ติดกับเมือง มีสิ่งก่อสร้างที่น่าตื่นตามากมาย และยังมีภาพยนต์ที่กล่าวถึงเมืองนี้อย่าง “Train to Busan” ที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักเมืองนี้มากขึ้น พร้อมกับเหตุผลอีกหลายๆอย่างที่ทำให้ปูซานกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายของเหล่านักเดินทางหรือกลายเป็นหนึ่งในเส้นทางทัวร์เกาหลีที่ต้องมาเยือน
ปูซาน แห่งประเทศเกาหลีเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศเกาหลี เคยเป็นสถานที่จัดงานฟุตบอลโลกมาแล้วเมื่อปี 2002 และนอกจากนี้ก็เป็นสถานที่จัดงานเอเปค 2005 พร้อมกับในอนาคตในปี 2020 ปูซานจะเป็นสถานที่จัดงานโอลิมปิคฤดูร้อนอีกด้วย ทำให้มั่นใจได้เลยว่าการมาทัวร์เกาหลีเมืองปูซานแห่งนี้เป็นเมืองที่ลงทุนเพื่อการมาเยือนของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแน่นอน
เพราะว่าลักษณะภูมิประเทศของปูซานประเทศเกาหลีมีทั้งทะเลและภูเขา เป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศเกาหลี และมีการจัดงานระดับโลกมาแล้วหลายงาน ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองนี้ได้รับเงินในการพัฒนาสูงตามมาเช่นกัน และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้นมา และภาพที่ธรรมชาติมีไว้ให้เหล่านักเดินทางมาสัมผัสด้วยตาตัวเองที่ปูซานประเทศเกาหลี
จะดูหมู่บ้านสีลูกกวาดแบบนี้ ไม่ได้มีแค่ที่ซานโตรินี่ประเทศกรีซเท่านั้น แต่เราสามารถเจอได้เมื่อมาที่ปูซานประเทศเกาหลีได้ด้วยเช่นกัน
หมู่บ้านสีลูกกวาดแห่งนี้มีชื่อว่า “คัมชอน” (Gamcheon) เดิมเป็นหมู่บ้านที่สร้างบ้านกันอยู่ตามเนินเขาของผู้ลี้ภัยสงครามเกาหลี และภายหลังมีการปรับปรุงทัศนียภาพเพื่อตอบรับการเป็นเมืองท่องเที่ยวของปูซาน ซึ่งหนึ่งในการปรับปรุงนั้นก็คือการเติมสีสันที่เราเห็นอย่างทุกวันนี้ลงไปในหมู่บ้านแห่งนี้
เมื่อมาที่วัด “แฮดงยงกุงซา” แห่งนี้บรรยากาศของวัดที่อยู่บนโขดหินริมฝั่งทะเล มีคลื่นซัดทั้งวัน ตั้งอยู่ชายฝั่งทางตะวันเฉียงเหนือของปูซาน
วัดแฮดงยงกุงซาแห่งนี้ไม่ได้มีแค่วีดตั้งอยู่บนโขดหินริมทะเลเท่านั้น แต่มีการออกแบบส่วนต่างๆ ให้ผู้ที่มาเยือนวันนี้ได้พบกับภาพต่างๆที่วางแผนเอาไว้แล้ว
สะพานเดินข้ามน้ำข้ามทะเลแห่งนี้มีระยะทางประมาณ 100 เมตร (ตามข้อมูลบอกว่า 104 เมตร) ให้เหล่านักเดินทางโดยเฉพาะใครที่มีคู่ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปพร้อมกัน
การเดินทางผ่านสะพานลอยฟ้า “Songdo Beach Skywalk” แห่งนี้ จะทำให้เราเห็นภาพของทะเลได้ทุกมุมกันเลย เพราะสะพานแห่งนี้เป็นสะพานกระจก พื้นของสะพานก็เป็นกระจก ไว้ให้เราได้ล่องลอยกันบนผืนทะเลปูซาน ส่วนใครต้องการล่องลอยบนสะพานแห่งนี้ ในบางวันก็อาจจะต้องต่อคิวกัน เพราะว่าเจ้าหน้าที่ดูและสะพานแห่งนี้ได้จำกัดจำนวนคนที่อยู่บนสะพาน และต้องสวมถุงห่อเท้าก่อนขึ้นไปล่องลอยบนสะพานลอยฟ้า “Songdo Beach Skywalk” แห่งนี้ด้วย
นอกจากสามสถานที่ภายในปูซานของประเทศเกาหลี่ที่เรายกมาเป็นตัวอย่างแล้วยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายที่ในปูซานให้เหล่านักเดินทางได้มาเยือน อย่างเช่น สวนแทจงแด(Taejongdae Park) จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น(Oryukdo Skywalk) หรือไม่ก็ Nurimaru APEC House ที่เป็นสถานที่จัดประชุม APEC 2005 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา งานนิทรรศการ หรือเยี่ยมครอบครัว (General Visit) ที่ประเทศเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่า และอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ได้ไม่เกิน 90 วัน แต่ว่าในระหว่างขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเจ้าหน้าที่อาจจะมีการเรียกตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งทางสถานฑูตเกาหลีประจำประเทศไทยแนะนำว่าให้เตรียมเอกสารเผื่อไว้ให้ครถ้วนโดยเอกสารดังนี้จะต้องเป็นภาษาอังกฤษคือ (1)หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (2)หลักฐานการจองที่พัก (3)แผนการท่องเที่ยว (4)หนังสือเชิญจากประเทศเกาหลี (5)หลักฐานการทำงานหรือศึกษาในประเทศไทย (6)หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินในประเทศไทย และ (7)หากมีการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุลมาก่อน ต้องเตรียมหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุลมาด้วย
ระบบไฟฟ้าที่ปรเทศเกาหลีใต้ปกติทั่วไปจะใช้แรงดันไฟ้า 220 โวลต์ที่ความถี่ 50-60 เฮิร์ตเหมือนกับที่ไทยเรา จึงมั่นใจได้เลยว่าเครื่องไฟฟ้าที่นำมาจากประเทศไทยจะสามารถทำงานได้แทบทุกเครื่อง(ถ้ายังไม่เสีย) แต่ที่น่าจะเป็นปัญหากับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจากบ้านเราก็น่าจะเป็นรูปแบบปลั๊กซึ่งเป็นรูกลบแบบ C (Type C) ซึ่งถ้าเราเดินทางไปเที่ยวเกาหลีกับบริษัททัวร์ เรื่องเหล่านี้บริษัทร์ทัวร์เกือบทั้งหมดจะเป็นผู้จัดการให้กับเราล่วงหน้าก่อนการออกเดินทางอยู่แล้ว แต่สำหรับท่านที่หลงไหลการเดินทางไปสัมผัสโลกด้วยตนเองก็อาจะต้องพกพา Universal Adapter เพื่อแปลงรูปแบบปลั๊กให้สามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรามีให้สามารถทำงานได้อย่างราบลื่น
ภาพปลั๊กแบบต่างๆ: //gearpatrol.com/2015/02/06/guide-to-plugs-and-sockets-by-country/
ไวไฟฟรีที่สนามบินโซลแรงมากลื่นหัวแตกกันเลย และที่โรงแรมเกือบทั้งหมดก็มีบริการฟรีไวไฟด้วย อีกทั้งตามตรอกซอกซอยก็สามารถหาสัญญาณไวไฟฟรีได้ไม่อยากเลย แต่สำหรับท่านที่ต้องเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ตลอดเวลาและต้องการความมั่นใจก็มีสามทางเลือกหลักๆที่เป็นที่นิยมกัน โดยวิธีที่นิยมกันมากที่สูดคือการเช่า Pocket Wifi ไปใช้งานซึ่งแนะนำให้ซื้อจากที่ไทยได้เลยเนื่องจากราคาไม่ต่างกันมาก หรือบางทีอาจจะได้โปรโมชั่นดีกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งท่านที่เดินทางไปกับบริษัททัวร์อาจจะไม่จำเป็นต้องเตรียมการในส่วนนี้เลยเนื่องจากบริษัททัวร์ส่วนใหญ่จะเตรียมการเรื่องเหล่านี้ไว้สำหรับลูกทัวร์อยู่แล้ว วิธีที่สองที่เป็นที่นิยมและกำลังนิยมมากขึ้นเรื่อยๆคือการซื้อซิมการ์ดอินเตอร์เน็ตใช้งานซึ่งสามารถซื้อได้ทั้งที่เกาหลีหรือซื้อจากที่ไทยใช้งานได้เลย และอีกวิธีคือการเปิดโรมมิ่งจากเครือข่ายผู้ให้บริการจากไทยให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เกาหลีได้ ซึ่งสามารถเช็คค่าใช่จ่ายได้จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการด้โดยตรง