กรุงโซล เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้กว่า 600 ปี เป็นศูนย์กลางทางการเมือง การศึกษา เศรษฐกิจ และด้านอื่นๆของเกาหลีไต้ แต่ถึงจะเป็นเมืองหลวงที่ได้รับการพัฒนาเพื่อคุณภาพชีวิตคนเมือง ก็ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย อย่างเช่น พระราชวังเคียงบก(Gyeongbokgung Palace) พระราชวังชางด๊อก(Changdeokgung Palaces) หมู่บ้านโบราณบุกชน (Bukchon Hanok Village) และที่อื่นๆมากมายให้เหล่านักเดินทางเข้ามาทำความรู้จักมหานครแห่งนี้
กรุงโซลแห่งดินแดนกิมจิ เป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้มาหกร้อยกว่าปีแล้ว อาจจะเป็นดินแดนในฝันของหลายคน ไม่ว่าจะเคยเห็นรีวิวต่างๆ เพื่อนที่เคยไปทัวร์เกาหลีมาเล่าให้ฟัง หรือไม่ว่าจะดูโอป้าตามซีรีย์ก็ตาม โดยวัฒนธธรรมเกาหลีเองจะมีความคล้ายกันกับจีนและญี่ปุ่น เพราะว่าเกาหลี จีน ญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ร่วมกัน
เกาหลีนั้นได้แบ่งเป็นเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเรื่องราวของที่นี่เริ่มต้นจากอาณาจักรโชซ็อนโบราณ ตามที่เราติดตามในซีรีย์กันอย่างสนุกสนานนั่นเอง กระทั้งภายหลังการแบ่งประเทศเกาหลีเหนือและใต้ ได้เข้าอารยธรรมของเกาหลีเหนือได้ยากมากขึ้น มีเพียงฝั่งเกาหลีใต้เกาหลีใต้ที่เรายังเข้าถึงความงามที่หลงเหลืออยู่และที่สร้างขึ้นใหม่ พูดได้ว่าเกาหลีใต้นั้นเป็นประเทศที่สนับสนุนด้านการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ทีเดียว แถมมีการอนุญาติผู้ที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติไทย สามารถเดินทางมาประเทศเกาหลีได้ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา งานนิทรรศการ หรือเยี่ยมครอบครัว ซึ่งโดยไม่จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าและสามารถอยู่ในประเทศเกาหลีได้นานสูงสุดถึง 90 วัน กันเลยแหละ พูดแล้วต้องลองหาโอกาสมาท่องเที่ยวที่เกาหลีกันเลย
นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยิี่ยมชมมากเมื่อมาที่กรุงโซลพระราชวังแห่งนี้ยังเป็นเหมือนสัญลักญณ์แก่งการท่องเที่ยวของกรุงโซลเลยก็ว่าได้ ซึ่งพระราชวังเคียงบกกุงจะสามารถเรียกชื่ออีกแบบกันว่า “พระราชวังคยองบกกุง” ซึ่งเดิมทีภายในเขตพระราชวังมีอาคารสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 200 หลัง แต่ปัจจุบันถูกทำลายให้เหลือเพียง 10 หลังเท่านั้น
ดูภาพความละเอียดสูงของพระราชวังเคียงบกกุงได้ที่: http://pxhere.com/en/photo/1052457
เป็นย่านช้อปปิ้งที่คึกคักมากถึงมากที่สุด ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงโซลและเป็นที่น่าตื่นเต้นมากเมื่อเราพบรายงานข้อมูลสถิติว่าย่านช้อปปิ้งเมียงดงนี้สามารถดึงดูดนัท่องเที่ยวให้เข้ามาได้มากกว่าหนึ่งล้านคนต่อวัน
ภาพแหล่งช้อปปิ้งย่านเมียงดง: kanjunglemap.blogspot.com
ล็อตเต้เวิร์ลเป็นสวนสนุกในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเพราะว่าล็อตเต้เวิร์ลเป็นสวนสนุกในร่ม จึงสามารถเปิดให้บริการได้ทั้งปีสำหรับประเทศที่ีสภาพอากาศมีทั้งฝนหนักกับหิมะตกอย่างประเทศเกาหลี
ภาพบรรยากาศสวนสนุกล็อตเต้เวิร์ล: Tourist Destinations
นอกจากสามสถานที่ภายในกรุงโซลประเทศเกาหลี่ที่เรายกมาเป็นตัวอย่างแล้วยังมี หมู่บ้านบุกชอนฮานก(Bukchon Hanok Village) ย่านวัฒนธรรมอินซาดง(Insa-dong Culture District) ตลาดนัมเดมุน(Namdaemun Market) หอคอยกรุงโซล(N’ Seoul Tower) คลองชองเกชอน(Cheonggyecheon Stream) และสถานที่อื่นๆอีกมากมายรอให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ไปสัมผัสกับความลงตัวของประวัติศาสตร์และความทันสมัยในช่วงเวลาที่เดินพร้อมกัน
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา งานนิทรรศการ หรือเยี่ยมครอบครัว (General Visit) ที่ประเทศเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่า และอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ได้ไม่เกิน 90 วัน แต่ว่าในระหว่างขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเจ้าหน้าที่อาจจะมีการเรียกตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งทางสถานฑูตเกาหลีประจำประเทศไทยแนะนำว่าให้เตรียมเอกสารเผื่อไว้ให้ครถ้วนโดยเอกสารดังนี้จะต้องเป็นภาษาอังกฤษคือ
(1)หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
(2)หลักฐานการจองที่พัก
(3)แผนการท่องเที่ยว
(4)หนังสือเชิญจากประเทศเกาหลี
(5)หลักฐานการทำงานหรือศึกษาในประเทศไทย
(6)หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินในประเทศไทย และ
(7)หากมีการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุลมาก่อน ต้องเตรียมหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุลมาด้วย
ระบบไฟฟ้าที่ปรเทศเกาหลีใต้ปกติทั่วไปจะใช้แรงดันไฟ้า 220 โวลต์ที่ความถี่ 50-60 เฮิร์ตเหมือนกับที่ไทยเรา จึงมั่นใจได้เลยว่าเครื่องไฟฟ้าที่นำมาจากประเทศไทยจะสามารถทำงานได้แทบทุกเครื่อง(ถ้ายังไม่เสีย) แต่ที่น่าจะเป็นปัญหากับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจากบ้านเราก็น่าจะเป็นรูปแบบปลั๊กซึ่งเป็นรูกลบแบบ C (Type C) ซึ่งถ้าเราเดินทางไปเที่ยวเกาหลีกับบริษัททัวร์ เรื่องเหล่านี้บริษัทร์ทัวร์เกือบทั้งหมดจะเป็นผู้จัดการให้กับเราล่วงหน้าก่อนการออกเดินทางอยู่แล้ว แต่สำหรับท่านที่หลงไหลการเดินทางไปสัมผัสโลกด้วยตนเองก็อาจะต้องพกพา Universal Adapter เพื่อแปลงรูปแบบปลั๊กให้สามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรามีให้สามารถทำงานได้อย่างราบลื่น
ภาพปลั๊กแบบต่างๆ: https://gearpatrol.com/2015/02/06/guide-to-plugs-and-sockets-by-country/
ไวไฟฟรีที่สนามบินโซลแรงมากลื่นหัวแตกกันเลย และที่โรงแรมเกือบทั้งหมดก็มีบริการฟรีไวไฟด้วย อีกทั้งตามตรอกซอกซอยก็สามารถหาสัญญาณไวไฟฟรีได้ไม่อยากเลย แต่สำหรับท่านที่ต้องเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ตลอดเวลาและต้องการความมั่นใจก็มีสามทางเลือกหลักๆที่เป็นที่นิยมกัน โดยวิธีที่นิยมกันมากที่สูดคือการเช่า Pocket Wifi ไปใช้งานซึ่งแนะนำให้ซื้อจากที่ไทยได้เลยเนื่องจากราคาไม่ต่างกันมาก หรือบางทีอาจจะได้โปรโมชั่นดีกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งท่านที่เดินทางไปกับบริษัททัวร์อาจจะไม่จำเป็นต้องเตรียมการในส่วนนี้เลยเนื่องจากบริษัททัวร์ส่วนใหญ่จะเตรียมการเรื่องเหล่านี้ไว้สำหรับลูกทัวร์อยู่แล้ว วิธีที่สองที่เป็นที่นิยมและกำลังนิยมมากขึ้นเรื่อยๆคือการซื้อซิมการ์ดอินเตอร์เน็ตใช้งานซึ่งสามารถซื้อได้ทั้งที่เกาหลีหรือซื้อจากที่ไทยใช้งานได้เลย และอีกวิธีคือการเปิดโรมมิ่งจากเครือข่ายผู้ให้บริการจากไทยให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เกาหลีได้ ซึ่งสามารถเช็คค่าใช่จ่ายได้จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการด้โดยตรง